1. Home
  2. ท่องเที่ยว
  3. พาตะลุย 8 สถานที่ท่องเที่ยวฮอกไกโด !

พาตะลุย 8 สถานที่ท่องเที่ยวฮอกไกโด !

พาตะลุย 8 สถานที่ท่องเที่ยวฮอกไกโด !
0
0

พาตะลุย 8 สถานที่ท่องเที่ยวฮอกไกโด !

วันนี้แอดจะพาไปทัวร์จี้ปุ่ง เอ้ยยย จี้ปุ่น เอ้ยยยย ญี่ปุ่ง เอ้ยยย ญี่ปุ่น เอ้ยยย ถูกแล้ว ! เสียเวลาชีวิตไปตั้งหลายวินาทีกับการอ่านใช่ไหมคะกับการขึ้นหัวข้อในวันนี้ เพราะวันนี้แอดอยากจะให้ผู้อ่านทุกท่านมีความสุขกับการได้เข้ามาอ่านบทความของเรา เนื่องจากเราจะพาหลบร้อนเมืองไทย ไปทัวร์สถานที่ท่องเที่ยวฮอกไกโด โด โด โดดด นั่นเองงงงง

จะเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวฮอกไกโด (Hokkaido) ทั้งที แต่วางแผนไว้แค่มาทานอาหารทะเล และบุฟเฟ่ต์ปูอลาสก้า ก็คงจะไม่คุ้มค่าการเดินทางสักเท่าไร เนื่องจากฮอกไกโดไม่ได้มีดีแค่ในเรื่องของอาหารเพียงเท่านั้น แต่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะฮอกไกโด เป็นเกาะขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บริเวณทิศเหนือสุดของญี่ปุ่น จึงมีภูมิประเทศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี รวมไปถึงทิวทัศน์ตามธรรมชาติที่ควรมาชมให้ได้สักครั้งในชีวิต และถ้าใครอยากทดลองแช่น้ำพุร้อนแบบออนเซ็น ที่ฮอกไกโดก็มีให้บริการเช่นกัน แล้วภูมิภาคนี้จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ตามไปดู

 

1.จุดชมวิวภูเขาฮาโกดาเตะ (Mount Hakodate), เมือง Hakodate

ที่มารูปภาพ : Japan Info

จุดชมวิวภูเขาฮาโกดาเตะ ได้รับการจัดอันดับ 1 ใน 3 ให้เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของประเทศญี่ปุ่น เมื่อขึ้นมาบนภูเขาฮาโกดาเตะที่มีความสูงถึง 334 เมตร ก็จะได้เห็นวิวในมุมกว้าง ๆ ของชุมชนอาโกดาเตะที่ถูกโอบล้อมไปด้วยภูเขาและทะเลอย่างสวยงาม จะมาชมกลางวัน แล้วมาชมกลางคืนซ้ำอีกครั้งก็ไม่แปลก เพราะทั้งสองช่วงเวลานี้ จะให้ความสวยงามที่แตกต่างกันไป

เวลาทำการ

เปิดให้บริการทุกวัน ปลายเดือนเมษายน – เดือนตุลาคม เวลา 10.00 น.-22.00 น.

ปลายเดือนตุลาคม – เดือนเมษายน เวลา 10.00 น.-21.00 น.

ค่าเข้าชม

ไม่เสียค่าเข้าชม แต่หากขึ้นไปบนจุดชมวิวด้วยเคเบิ้ลคาร์ มีค่าบริการ คือ ผู้ใหญ่ 1,280 เยน และเด็ก 640 เยน

 

 

2.ริมคลองโอตารุ (Otaru Canal Area), เมือง Otaru

ที่มารูปภาพ : jnto.or.th

แต่เดิมนั้น เมืองโอตารุ เป็นท่าเรือเล็ก ๆ ที่มีความคึกคักเป็นอย่างมากในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 แต่เมื่อการขนส่งเริ่มมีการพัฒนาและมีความทันสมัยมากกว่าเดิม เมืองท่าแห่งนี้ก็ค่อย ๆ ถูกลดความสำคัญลง เหลือเพียงหมู่บ้านชาวประมงที่ชื่อเฮอร์ริ่งเพียงอย่างเดียว แต่ด้วยความสวยงามของสถานที่แห่งนี้ จึงทำให้ทางการได้เข้าไปปรับโฉมให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว ด้วยการเปลี่ยนโกดังสำหรับเก็บสินค้าทะเล ให้กลายเป็นร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์เพื่อบอกเล่าความเป็นมาของสถานที่แห่งนี้ รวมถึงมีการติดตั้งโคมไฟแบบโบราณไปตามถนนที่ทอดยาวขนานไปกับคลองโอตารุ ทำให้มีความโรแมนติกมากขึ้นกว่าเดิม

เวลาทำการ

เปิดให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง และไม่เสียค่าเข้าชมแต่อย่างใด

 

3.ทุ่งดอกไม้ ฟูราโน่ (Furano Flower Field), เมือง Furano

ที่มารูปภาพ : Travel MThai

ดอกลาเวนเดอร์(Lavender) นิยมปลูกในภูมิภาคฮอกไกโดมานานกว่าครึ่งศตวรรษ ทุ่งดอกไม้ขนาดต่างๆ มีอยู่ทั่วเมืองฟูราโน่(Furano) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดผู้คนให้มาชมความงดงามของทุ่งดอกไม้แห่งนี้ ซึ่งช่วงที่ดอกลาเวนเดอร์บานสะพรั่งเต็มที่ คือช่วงกลางเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนสิงหาคม แต่ดอกลาเวนเดอร์จะคงบานอยู่ในกลางสิงหาคม นอกจากนี้ยังมีดอกไม้อีกมากมายหลายชนิดในฤดูอื่น เช่น ดอกป๊อปปี้ และดอกลูปิน ในเดือนมิถุนายน ดอกลิลลี่ ในเดือนกรกฎาคม ดอกทานตะวัน ดอกซัลเวีย และคอสมอส ในเดือนสิงหาคมถึงกันยายน

จุดชมดอกลาเวนเดอร์ที่ดีที่สุดคือ ฟาร์มโทมิตะ(Farm Tomita) ซึ่งมีวิวทิวทัศที่สวยงามจากฉากหลังเป็นภูเขาโทกะชิ(Tokachi mountain) ซึ่งเปิดให้เข้าชมฟรีอย่างอิสระ ใกล้ๆกับทุ่งดอกไม้ยังมีร้านกาแฟ ร้านค้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากลาเวนเดอร์อีกด้วย

เวลาทำการ

เปิดให้บริการทุกวัน  และไม่มีค่าบริการในการเข้าชม โดยมีช่วงระยะเวลาที่แตกต่างกัน ประมาณ 09.00-17.00

 

 

4.ลานสกีฟูราโน่ (Furano Ski Area), เมือง Furano

ที่มารูปภาพ : ไทยโมเดิร์นทราเวล

มีนักท่องเที่ยวหลายคน ที่ตั้งใจเดินทางมาเล่นสกีที่สถานที่แห่งนี้ นอกเหนือไปจากการท่องเที่ยวและการทานอาหารเพียงอย่างเดียว เพราะลานสกีฟูราโน่ เคยเป็นลานสกีที่ใช้ในการแข่งขันระดับโลกมาก่อน จึงมีทั้งบริเวณทางลาดชันไม่มาก สำหรับผู้หัดเล่นสกีใหม่ ๆ และทางลาดชันแบบสูง ๆ สำหรับมือโปร หรือจะทำกิจกรรมร่วมกับหิมะ เช่น นั่งบนรถที่มีสุนัขลากเลื่อนเหมือนที่ชมในภาพยนตร์ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน

เวลาทำการ

เปิดให้บริการเวลา 08.30 น. – 20.00 น. เฉพาะในช่วงฤดูหนาว

ค่าบริการเข้าชม

3 ชั่วโมง 4,000 เยน หากเหมาทั้งวัน ราคา 5,500 เยน ช่วงเวลาตั้งแต่ 17.00 – 21.00 น. 1,600 เยน (มีค่าเช่าอุปกรณ์อีกต่างหาก)

 

5.บ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึ (Noboribetsu Onsen), เมือง Noboribetsu

ที่มารูปภาพ : hotelopia.com

บ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึ ถูกเรียกว่าเป็นบ่อน้ำร้อน (ออนเซ็น) ที่ดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เพราะมีบ่อน้ำร้อนที่มีความแตกต่างกันถึง 9 ชนิด (บางแห่งก็ว่า 11 ชนิด) แบ่งไปตามแร่ธาตุชนิดต่าง ๆ เช่น บ่อน้ำพุร้อนกำมะถัน บ่อน้ำพุร้อนเกลือ บ่อน้ำพุร้อนโซเดียมไบคาร์บอเนต เป็นต้น เมื่อมาถึงบริเวณนี้แล้วต้องการแช่บ่อน้ำพุร้อน ก็สามารถเลือกบ่อได้ตามต้องการโดยติดต่อกับทางโรงแรมที่ให้บริการบ่อน้ำพุร้อนนั้น ๆ ซึ่งจะมีค่าบริการตั้งแต่ 700-2,500 เยนขึ้นไป (หากพักค้างคืนก็จะมีราคาที่สูงขึ้นกว่าเดิม)

เวลาทำการ

ส่วนมากบ่อน้ำพุร้อนต่าง ๆ มักจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 7.00 น. เป็นต้นไป และปิดไม่เกิน 21.00 น. แต่อาจจะมีบางที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

 

6.สระอะโออิเคะ (Aoiike Blue Pond), เมือง Biei

ที่มารูปภาพ : Travel MThai

สระอะโออิเคะ ตั้งอยู่ที่เมืองบิเอะ ไม่ไกลจากเทือกเขาโทกาชิมากนัก ความโดดเด่นของสระนี้อยู่ที่การมีสีฟ้าสดใสในช่วงฤดูร้อน แต่เมื่อถึงช่วงฤดูหนาว น้ำก็จะเปลี่ยนเป็นสีฟ้าอมเขียว ตัดกับหิมะที่เกาะอยู่บนกิ่งไม้อย่างสวยงาม เหตุที่น้ำสามารถเปลี่ยนสีได้นั้น เกิดจากการที่ภายในน้ำมีสารอลูมิเนียมออกไซด์อยู่จำนวนมาก เมื่อสะท้อนกับแสงแดด ก็ทำให้เห็นเป็นสีฟ้าสดใส หรือสีฟ้าอมเขียว ขึ้นอยู่กับบริเวณที่เรายืนมอง และแสดงแดดส่องกระทบ

เวลาทำการ

เปิดให้เข้าชมได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ค่าเข้าชม

ไม่เสียค่าบริการในการเข้าชม

 

7.โรงงานช็อคโกแล็ต (Shiroi Koibito), เมือง Sapporo

ที่มารูปภาพ : J-Plan Holiday

ของฝากชื่อดังของฮอกไกโดที่นักท่องเที่ยวส่วนมากรู้จักกันดี ก็คือคุกกี้เนยไส้ไวท์ช็อคโกแลตยี่ห้อ Shiroi Koibito ที่ผลิตโดยบริษัท Ishiya ซึ่งได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาชมโรงงานได้ ภายในโรงงาน นักท่องเที่ยวจะได้เห็นการผลิตคุกกี้สุดอร่อยแบบใกล้ชิดทุกขั้นตอน และยังมีขนมอีกหลายชนิด เช่น คัพเค้ก ซอฟท์ครีม และช็อคโกแลต หรือถ้าอยากจะลองเวิร์คช้อปทำคุ้กกี้ด้วยตัวเอง ที่โรงงานก็มีสอนแบบสั้นๆ อีกด้วย

เวลาทำการ

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09.00 น. – 18.00 น.

ค่าเข้าชม

600 เยน

 

                   8.สวนสัตว์อะซาฮิยาม่า (Asahiyama Zoo), เมือง Asahiyama       

ที่มารูปภาพ : หญิงปุ๊ก พาเที่ยว

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆของอกไกโด ที่นักท่องเที่ยวต้องมาชม เหตุที่สวนสัตว์แห่งนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ก็เพราะมีการเปิดให้เข้าชมในลักษณะของมุมมองที่แตกต่างไปจากการเข้าชมสวนสัตว์แบบเดิม ๆ เช่น การเดินผ่านอุโมงค์แก้ว เพื่อชมนกเพนกวินว่ายน้ำ การเดินผ่านโดมแก้วหิมะ เพื่อชมการใช้ชีวิตของหมีขั้วโลก เป็นต้น โดยไฮไลท์สุดของสวนสัตว์นี้คือการชมขบวนเพนกวินเดินพาเรดมาตามทางหิมะที่สามารถชมได้อย่างใกล้ชิดไม่มีอะไรมากั้นเลย

เวลาทำการ

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.30 น. – 15.30 น. (อาจมีบางช่วงที่เปิดถึง 17.00)

ค่าเข้าชม

820 เยน

 

หูววววววว แต่ละสถานที่ที่พาไปทัวร์ น่าไปมากๆ แต่แอดก็คงต้องรีบเก็บเงินรัวๆๆ เพราะว่า มีแพลนจะไปเที่ยวหลายที่มากๆ ท่านผู้อ่านก็อย่าสิ้นหวังไปนะคะ ตั๋วเครื่องบินตอนนี้มีโปรโมชั่นเยอะมาก แต่ตัวแอดเองที่จนค่ะ ฮ่าฮ่า หัวเราะทั้งน้ำตา วันนี้บทความ พาตะลุย 8 สถานที่ท่องเที่ยวฮอกไกโด ก็คงต้องจบลงเพียงเท่านี้ อันที่จริงในฮอกไกโดยังมีสถานที่ให้ไปเที่ยวชมอีกมาก ไว้รอบหน้าแอดจะนำมาให้ติดตามอ่านกันนะคะ รักทุกคน 

ขอบคุณข้อมูลดีๆ : talonjapan.com

ขอบคุณรูปภาพ : tourkrub.co